ในช่วงพรรษาที่ 32 หลวงปู่หลุย จันทสาโร ท่านได้เดินทางมาปฏิบัติภาวนาที่ภูบักบิดเป็นถ้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง เนื่องจากเป็นอาณาเขตของพวกบังบดหรือภุมเทวดาสถิตอยู่ ปากถ้ำเล็กแคบมากแต่เมื่อผ่านปากถ้ำเข้าไปแล้วภายในจะกว้างใหญ่ ผนังถ้ำเป็นโพรงและซอกหลืบมากมาย และมีโพรงลึกอยู่โพรงหนึ่งชาวบ้านเรียกขานกันว่าเป็นโพรงของพญานาค หากใครนำเอามะพร้าวมาทิ้งลงในโพรงนี้ มะพร้าวจะไปโผล่ที่กุดป่องอย่างน่าอัศจรรย์ ที่เป็นเช่นนี้แสดงว่า ลึกจากปากโพรงลงไปคงจะมีสายธารน้ำไหลอยู่ใต้แผ่นดิน และสายธารน้ำไหลนี้คงจะทอดยาวไปทะลุถึงกุดป่องได้ปีพุทธศักราช 2499 หลวงปู่หลุยท่านต้องการเปลี่ยนสถานที่บำเพ็ญเพียร จึงได้มุ่งหน้ามายังภูบักบิด เนื่องจากบนภูบักบิดเป็นป่าเขาอุดมสมบรณ์ไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า สภาพธรรมชาติจึงสงบวิเวกเป็นสัปปายะสำหรับพระธุดงค์พระกรรมฐาน หลวงปู่หลุยขึ้นไปบำเพ็ญภาวนาบนภูบักบิดช่วงเดือนธันวาคมอากาศบนภูหนาวเหน็บเย็นเยือก
คืนหนึ่งปู่หลุยได้เผชิญกับสิ่งลึกลับซึ่งท่านต้องยอรับว่ามีอยู่จริงนั่นคือพญานาค หลวงปู่หลุยเผชิญกับพญานาคแห่งภูบักบิดตนนี้ เป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิมาแต่เดิมไม่ยอมรับนับถือพระสุปฏิปันโน เมื่อหลวงปู่มาบำเพ็ญภาวนาในเขตของตนจึงแสดงฤทธิ์ปรากฏกายลองดีกับท่าน โดยใช้ส่วนหางพันรอบกายท่านหลายรอบแล้วรัดแน่น หลวงปู่หลุยเล่าว่า ทันทีที่รู้สึกว่าพญานาคมารัดตัวท่านตั้งสติไม่ทัน ทำให้ตกใจ หลวงปู่บอกว่าอึดอัดมาก
อันที่จริงหลวงปู่หลุยเคยมีประสบการณ์เรื่องพญานาคมาเหมือนกัน แต่ไม่เคยพบถึงขั้นเข้ามารัดตัวท่านขนาดนี้จึงทำให้ท่านอดสะดุ้งหวั่นไหวไม่ได้ แต่เมื่อตั้งสติได้ก็กำหนดจิตเอาพุทโธ เป่าเข้าไปขดลำตัวพญานาคซึ่งรัตตัวท่านก็คลายออกอย่างรวดเร็วกระทั่งหายวับไป แม้หลวงปู่หลุยจะเผชิญกับความน่ากลัวของพญานาคถึงปานนี้ ท่านก็ไม่ได้พรั่นพรึงไม่ยอมหนีไปจากถ้าภูบักบิด ยังคงบำเพ็ญภาวนาต่อไปด้วยความมั่นคงแน่วแน่ พร้อมกันนั้นก็ได้แผ่เมตตาไปให้พญานาคตนนั้นไม่มีประมาณ ตราบจนจิตของพญานาคอ่อนลงยอมรับนับถือท่านและต่อมาได้กลายเป็นมิตรที่ดีของหลวงปู่หลุยในที่สุด
ที่มา http://www.payanaka.com


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น