ศิษย์สำนักปฏิบัติธรรมเขากะลาเตือนไทยจะเกิดภัยพิบัติ เชื่อมนุษย์ต่างดาวเตรียมยานอวกาศพาหนีไว้แล้ว
จากกรณีที่ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้” มีการเผยแพร่คลิปกลุ่มบุคคลทำพิธีร่างทรง ทำนายดวงชะตาโลก โดยมีการอันเชิญเทพที่อ้างว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว ชื่อพลูโต มาลงประร่าง ก่อนจะมีการระบุว่า ในปี 2020 จะเกิดภัยพิบัติรุนแรงถึงขั้นล้างโลก จนทำให้มนุษย์และสัตว์อีกหลายล้านชีวิตตายลง ซึ่งพบว่าสถานที่เกิดคลิปตั้งอยู่ภายในสถานปฏิบัติธรรมเขากะลา พื้นที่ ต.พระนอน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นจริงเมื่อวันอาสาฬหบูชาเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
(15 ส.ค.)
ได้ตรวจสอบสถานที่ทำพิธีร่างทรงมนุษย์ต่างดาวตามที่ปรากฏอยู่ในคลิปอีกครั้ง
พบว่า มีกำลังเจ้าตำรวจ สภ.หนองปลิง จังหวัดนครสวรรค์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่
10 เจ้าของพื้นที่ เดินทางขึ้นไปยังสำนักปฎิบัติธรรม
เพื่อสอบถามและพบกับเจ้าของพื้นที่เพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ถ่ายรูปและเดินทางกลับลงจากยอดเขาไป
ด้าน นายประสิทธิ์ ผู้ดูแลสำนักแทนนายเจริญ กล่าวว่า
ตนและลูกศิษย์ในฐานะผู้ปฏิบัติธรรมในสถานที่แห่งนี้
ยืนยันว่าเหตุการณ์ค้นพบจานบินจากมนุษย์ต่างดาวนั้น
เกิดขึ้นจริงบนสถานที่แห่งนี้
เพราะที่ผ่านมานายเจริญบุคคลที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้นั้น
ค้นพบและพบว่าสถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของยานอวกาศมนุษย์ต่างดาว
ทำให้นายเจริญเป็นผู้ค้นพบคนแรกไม่สามารถเดินทางไปไหนได้
ต้องมาปฏิบัติธรรมยังสถานที่แห่งนี้
โดยใช้หลักการทำสมาธิในการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว
ด้วยวิธีการแสกนกรรมให้คนที่เดินทางมาปฏิบัติธรรมยังสถานที่แห่งนี้
ได้ใช้ธรรมะในการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวหรือนายอวกาศ ซึ่งนายเจริญ
สามารถติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้
แต่วันนี้นายเจริญไม่สามารถเปรากฎตัวได้
ตนและคนงานก็เฝ้าสำนักตามปกติและกำลังต่อเติมอาคารปฏิบัติธรรม
เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางมานั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมได้พักผ่อน
ส่วน นายศรัณรงกรณ์ หรือ กร ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเดินทางมาปฏิบัติธรรมบนยอดเขากะลาตั้งปีต้นปีที่ผ่านมา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า
สามารถติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ผ่านธรรมะของพระพุทธเจ้า
จึงต้องอยู่ปฏิบัติภารกิจยังสถานที่แห่งนี้
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีพลังงานที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้
และในไม่กี่เดือนนี้จะเกิดภัยพิบัติกับประเทศไทยและคนไทย
แต่มนุษย์ต่างดาวจะสามารถพาคนกลุ่มหนึ่งรอดพ้นจากความตายได้
ด้วยยานอวกาศที่สามารถมาขึ้นยานอวกาศไปกับมนุษย์ต่างดาวได้
ผ่านมิติของพลังงานที่ไม่สามารถมองเห็นได้บริเวณเขากะลาแห่งนี้
ซึ่งมิติจักรวานนี้สามารถสัมผัสได้ยังสถานที่แห่งนี้เท่านั้น
ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งพลังงานที่สัมผัสได้ด้วยตัวเอง
และส่วนตัวของแต่ละบุคคลก็สัมผัสได้ไม่เหมือนกัน บางคนสัมผัสได้
บางคนสัมผัสไม่ได้
“บริเวณสถานที่แห่งนี้เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นจะมียานอวกาศ
ซึ่งเอเลี่ยนเฝ้าอยู่จำนวน 3 ลำ
เดินทางมารับคนที่สามารถมีจิตสื่อสารไปนอกมิติได้ โดยจุดที่ยานสามารถจอดได้
มี 3 จุดบริเวณรอบเขากะลาแห่งนี้
จะมีคนที่สามารถเดินทางมาขึ้นยานได้ที่นี่
ตนจึงต้องปฏิบัติภารกิจนี้รอช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์หากเกิดภัยพิบัติขึ้น
ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของพลังงานที่ไม่สามารถมองเห็นได้
เพียงแต่ต้องสื่อสารผ่านจิตที่มีธรรมะเป็นสื่อกลางในการเชื่อมต่อเท่านั้น
โดยใช้หลักธรรมชาตินั่นเอง”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายศรัณรงกรณ์
ได้พาผู้สื่อข่าวเดินไปดูแหล่งที่ยานอวกาศสามารถมาลงจอดได้
และมีหินแหล่งพลังงานอยู่กระจายทั่วเชิงเขากะลา
ยังสาธิตวิธีการทะลุออกนอกมิติด้วยการใช้หิน ลูกปัด ลูกแก้ว
ในการเปิดประตูมิติ เหมือนภาพยนตร์รอบเขาพื้นที่
อีกทั้งบริเวณรอบพื้นที่เขาลูกปัญหาดังกล่าว มีรถอีส้ม รถไถ มาปรับถนน
ปรับพื้นที่เส้นทางขึ้นยอดเขา เพื่อเตรียมจัดงานกิจกรรมบางอย่างตลอดเวลา
ซึ่งไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบไปดูแลควบคุมแต่อย่างใด
เวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางขอเข้าพบกับนายเฉลียว ภู่เจริญ นายก อบต.เขากะลา
เพื่อสอบถามข้อมูลของพื้นที่และสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว
ได้รับการเปิดเผยว่า
ส่วนใหญ่คนในพื้นที่ไม่มีใครเชื่อไม่มีใครเห็นมนุษย์ต่างดาว จานบินอะไรเลย
ส่วนใหญ่คนที่เชื่อคือคนต่างจังหวัดและเป็นคนมีชื่อเสียงทั้งสิ้น
ส่วนตัวเคยเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อไปรับมอบห้องน้ำบนยอดเขา
จึงเห็นว่าคนที่เชื่อจะมองก้อนเมฆสามารถสื่อสารกันได้
เชื่อว่ามีเทพมาโปรดแต่ตนก็มองไม่เห็น พยายามนั่งดูนั่งฟัง
ก็มองไม่เห็นเหมือนเขา ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคลไม่สามารถไปว่ากันได้
สภาพพื้นที่เป็นภูเขาสองภู มีภูเขาสองลูกประกบ
และมีสำนักปฏิบัติธรรมอยู่ตรงกลาง รถยนต์สามารถขึ้นไปได้
ไม่มีการสนับสนุนงบประมาณอะไรจากราชการ
พื้นที่ตั้งของสำนักปฏิบัติแห่งนี้เป็นพื้นที่ภูเขา เดิมเป็นสำนักสงฆ์
มีพระอยู่บนเขา แต่ต่อมาไม่มีพระสงฆ์อยู่
เนื่องจากไม่ขึ้นตรงกับวัดคีรีสวรรค์
จึงทำให้นายเจริญใช้โอกาสนี้ขึ้นไปอยู่แทนพระสงฆ์
และดูแลเขาที่มีพระองค์ใหญ่ ซึ่งมีกุฏิพระอยู่ แต่เขาทั้ง 2 ลูกนั้น
อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้เพราะพื้นที่อยู่บนเขา
“สำหรับ อบต.พระนอนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องในพื้นที่ดังกล่าว
จะเห็นว่าหากมีกิจกรรมสำคัญเจ้าสำนักจะขนเครื่องเสียง
เครื่องปั่นไฟขึ้นไปด้านบนภูเขา ดึกๆ
จะมีการนั่งสมาธิกันและกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่จะเป็นนายแพทย์ เรียนสูงๆ
คนมีความรู้ทั้งสิ้น และส่วนใหญ่เดินทางมาจาก กทม.เป็นหลัก” นายก อบต.พระนอน กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น