ตำนานลูกประคำ
"ลูกประคำ" มีความหมายตามหลักวิชาการว่า ลูกกลม ๆ ที่ร้อยด้วย
เชือกเป็นสิ่งสำหรับชักเป็นคะแนนในเวลานั่งบริกรรมภาวนา แต่
ทว่า "ลูกประคำ" ตามความหมายและความรู้สึกของนักนิยมสะสมพระ
เครื่อง -เครื่องรางของขลังนั้นจะมีความหมายที่นอกเหนือไปจากคำ
จำกัดความ ดังกล่าวแล้ว นั่นก็คือ "ลูกประคำ" ยังเป็นเครื่องรางของ
ขลังอีกชนิดหนึ่งที่นิยมพกพา หรือคล้องคอ เพื่อขอพุทธานุภาพใน
การคุ้มครองป้องกันภัย
และสำหรับในด้านศาสนา ถือกันว่าเป็นเครื่องยังจิตใจ ให้เข้าสู่ภาวนา
สมาธิ เพื่อฝึกจิตตานุภาพให้แข็งแรง อดทนต่อการก่อกวนแห่งกิเลส
ทั้งปวง ที่มีให้พ้นไป ในทางพระเวทย์ ถือว่า "ลูกประคำ" เป็นเครื่อง
กำหนดคาบการภาวนาในการฝึกจิตหรือร่ายพระเวทย์วิทยาคมทั้ง
หลาย ให้เกิดพลังอำนาจขึ้นอีกเป็นทวีคูณ และในด้านวิชายุทธ
โบราณของจีนหรือกำลังภายในนั่นเอง ซึ่ง "ลูกประคำเหล็ก" ของ
หลวงจีนวัดเส้าหลินเอามาเป็นเครื่องป้องกันตัวจากคมอาวุธได้ และ
ยังใช้ในการสวดภาวนารวมไปกับบักเต้า (เครื่องเคาะจังหวะ) ได้อีก
ด้วย
"ลูกประคำ" มีมาตรฐานกำหนดเม็ดประคำ นับจากลูกปลายล่างสุดจนจรดปมที่ผูกมัดร้อยด้วยประคำรวมกันได้ 108 เม็ด จำนวน 108 เม็ดนี้ถือว่าเป็นเลขมงคลทั้งพุทธ และพราหมณ์ไปจนถึงอาถรรพณ์เวทย์ พระอรหันต์ 108 รูป สวดสาธยายพระคาถา 108 จบ ว่า 108 ชนิด ถ้าพูดถึงอะไรก็ตามที่ลงด้วย 108 แล้วจะขลังดีขึ้นอีกเป็นทวีคูณ
"ลูกประคำ" นั้นตามตำรับโบราณจะต้องใช้ว่านมงคล 108 มาบด
ผสมกับเครื่องยาจินดามณีเสียครั้งหนึ่งก่อน จึงจะโยงยึดด้วยรักหรือ
ปูนนั้น และจึงเจาะรูตรงกลาง ด้วยการเอาแผ่นเงินหรือแผ่นทองมาลง
อักขระม้วนเป็นตะกรุด เสียบเข้าไปเป็นแกนกลางสำหรับร้อยเชือก
ส่วนเชือกนั้นต้องใช้ไหมเจ็ดสีมาควั่นเป็นเชือกร้อยตรงปลายสุด ปั่น
ให้ฟูและถักเป็นพู่ให้สวยงามแต่ต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็นการใช้ผงใบ
ลาน เผาคลุกรัก และวัสดุอื่นจนในปัจจุบันนี้กลายเป็นประคำชนิดต่าง
ๆ ทั้งไม้จันทน์ ทั้งพลาสติก และลูกประคำสำเร็จรูป เมื่อนำสรรพสิ่งที่
ว่ามารวมกันแล้วท่านว่ามีศิริอานุภาพของประคำใช้ป้องกัน เขี้ยวงา
ศาตราวุธ และป้องกันการกระทำคุณไสยใช้ภาวนาเป็นคาถา
แคล้วคลาด และนำติดตัวเป็นเสน่ห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น